การจบสกอร์อันเยือกเย็นของ “เซอร์ดาน ชาคิรี่” ในเกมกับ คาร์ดิฟฟ์ ได้กลายเป็นช่วงเวลาครั้งสำคัญของเขาไปแล้วกับช่วงเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในถิ่น ลิเวอร์พูล และมันก็ไม่ได้สำคัญเพราะเขาทำประตูแรกให้กับหงส์แดง
ใน พรีเมียร์ลีกได้ ท่าทางที่เขาโยกหลอก ฌอน มอร์ริสัน กองหลังของ คาร์ดิฟฟ์ จนหลงไปอีกทางช่างดูเหมือนกับการเล่นสไตล์ของ คูตินโย่ เอามาก ๆ การจบสกอร์ของเขาผ่าน นีล เอเธอร์ริดจ์ ก็ทำให้ เดอะค็อป
เริ่มที่จะตระหนักถึง ชาคิรี่ มากกว่าเดิม บางทีประตูนั้นได้ทำให้เป็นครั้งแรกที่ ชาคิรี่ ถูกมองว่าเขาจะได้กลายมาเป็นตัวตายตัวแทนของ ฟิลิปเป้ คูตินโย่
“เซอร์ดาน ชาคิรี่” แข้งทีมชาติสวิสคนนี้มีเงื่อนไขที่ทำให้หลายทีมต้องหูผึ่งเพราะเขามีค่าฉีกสัญญาแค่ 13.5 ล้านปอนด์เท่านั้น เพราะ สโต๊ค ตกชั้นลงไป และด้วยความที่เล่นได้สารพัดประโยชน์ในแนวรุก
ก็ทำให้เขาเหมาะกับทีมที่กำลังมองหานักเตะเข้ามาหมุนเวียนโดยที่ทีมจะไม่ต้องเสียคุณภาพลงไปมากนัก เคยมีช่วงเวลาที่ผลการแข่งของ ลิเวอร์พูล จะขึ้นอยู่กับว่า คูตินโย่ จะสามารถร่ายมนตร์ออกมาในเกมนั้นได้หรือเปล่า
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อ เยอร์เกน คล็อปป์ เข้ามาเปลี่ยนทีมให้กลายเป็นทีมที่มีโอกาสทำประตูได้มากมาย
อดีตดาวรุ่งจาก อินเตอร์ มิลาน กระหายที่จะรับบอลมาทางด้านซ้ายและตัดเข้ากลางไปก่อนที่จะตวัดบอลโค้งใส่ประตูให้เหล่า เดอะค็อป ได้ลุ้นตัวโก่ง แต่อดีตกุนซือของ ดอร์ทมุนด์ ต้องการให้เขาทำสิ่งอื่นมากกว่า
เช่นเดียวกับนักเตะระดับท็อป เขาได้แสดงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าสถิติของตัวเอง ใน 6 เดือนก่อนที่เขาจะย้ายไปในถิ่น คัมป์นู แข้งชาว บราซิล มีสถิติ 0.53 การทำประตูต่อ 90 นาที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คูตินโย่
ในฤดูกาล 2017/18 อันตรายแค่ไหน
ประตูสุดท้ายที่เขาทำได้ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล เป็นประตูยิงไกลสุดสวยจากนอกกรอบเขตโทษใส่ สวอนซี แต่ประตูที่เขาทำได้ในเกมกับ บอร์นมัธ คือสิ่งที่ ชาคิรี่ สามารถเอามาเทียบได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
อดีตนักเตะเบอร์ 10 ของลิเวอร์พูล ได้บอลจากนอกกรอบก่อนที่เขาจะเลี้ยงบอลจี้เข้าไปในเขตโทษก่อนที่จะยึกยักหลอกจะยิงและแตะผ่านกองหลังไปก่อนที่จะยิงเบียดเสาเข้าไปอย่างเยือกเย็น คล็อปป์
ได้ตัดแต่งกิ่งของ คูตินโย่ ที่สวยงามอยู่แล้วให้สวยงามยิ่งกว่าเดิม แต่กับ ชาคิรี่ จะแตกต่างออกไปเล็กน้อย
แข้งชาวสวิส เป็นเหมือนกับเพชรดิบที่รอการเจียระไน เขามีชื่อเสียงในด้านการเล่นโดยใช้พละกำลัง แต่ในตอนนี้สิ่งที่เปล่งประกายออกมาจากตัวเขาคือการเล่นบอลอันสง่างาม แข้งเบอร์ 23 ของ ลิเวอร์พูล
คนปัจจุบัน ที่ผู้จัดการทีมของเขาดึงตัวเข้ามาเป็นแค่ตัวเลือกเพื่อโรเตชั่น แต่ในตอนนี้เขาทำให้กุนซือชาว เยอรมัน ต้องปวดหัวกับการเลือก 11 ตัวจริง ที่ดีที่สุดของทีม ส่วนมากแล้ว คล็อปป์ เลือกใช้ระบบ 4-3-3
มานับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมในอังกฤษ แต่ในช่วงหลัง หงส์แดง ได้ปรับมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 บ่อยกว่าเดิม เนื่องจากระบบนี้จะเอื้อกับ ฟาบินโญ่ ที่ถนัดมีกองกลางตัวรับสองคน แต่กลับกลายเป็น ชาคิรี่
ที่กราฟกำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในระบบใหม่นี้
“ชาคิรี่” ได้มาเติมเต็มในส่วนของ คูตินโย่ ไปแล้ว ไม่ใช่แค่เป็นสมาชิกคนที่ 4 แต่ด้วยทั้ง สไตล์การเล่น, อิทธิพล และ ผลลัพธ์ นักเตะที่ดูเหมือนเป็นเพชรดิบ และแทบจะไม่มีความส่ำเสมอจนทำให้แฟน ๆ
สโต๊ก ต้องหัวเสียได้หายไปแล้ว ในตอนนี้เขาได้กลายเป็นนักเตะผู้สร้างสรรค์โอกาส, นักเปลี่ยนเกม อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างความแตกต่างให้กับเกม และเป็นผู้ชนะในเกม