เชื่อว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าว เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์พาตัวเองไปลงเล่นในลีคที่แข็งแกร่งที่สุดของเอเชียอย่าง เจลีค 1 น่าจะเป็นเรื่องดีที่สุดต่อจากแชมป์ AFF นั่นเลยทีเดียว แต่การที่เจ ไปเล่นเจลีคในครั้งนี้เค้าจะต้องเจอแรงกดดันอย่างมากมาย มาดูกันว่าเป็นเรื่องของอะไรบ้าง
แรงกดดันเรื่องของการตลาด
แรงกดดันเรื่องแรกที่เจ ต้องเจอก็คือ เรื่องแรงกดดันจากการตลาด หากใครที่ติดตามข่าวสารฟุตบอลอยู่เป็นประจำจะรู้เลยว่า การซื้อขาย ยืมตัวนักเตะ ต่างแดน บางครั้งก็ไม่ได้ก็ทำสัญญาไปเพราะเรื่องของการเปิดตลาดฐานแฟนบอลมากกว่าเรื่องในสนาม แน่นอนว่ากรณีนี้ ถึงแม้ เจ เองก็มีดีเหมือนกัน แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ที่มาทำอย่างนี้เป็นเรื่องของการตลาดหรือเปล่าเพราะทันทีที่ดีลนี้เสร็จสิ้นลง สื่อก็ลงข่าว สกู๊ปเกี่ยวกับทีมนี้อย่างมากมาย จนทำให้ทีมนี้เป็นที่รู้จักในหมู่แฟนบอลเพียงชั่วข้ามคืน
แรงกดดันเรื่องรูปร่าง และทักษะ
การเล่นกีฬาบางครั้งก็บอกว่าขนาดของร่ายกายไม่สำคัญ แต่เชื่อเหอะว่าบางครั้งมันก็สำคัญ อย่าง เจ เองด้วยสรีระที่ไม่สูงเท่าไร การที่จะขึ้นไปเล่นในเจลีค จะต้องเจอกับผู้เล่นที่รูปร่าง สูงใหญ่กว่า ทักษะดีกว่า ทำให้ เจ จะต้องเจอแรงกดดันจากการชน กระแทก เบียด และอีกมากมาย หาก เจ สามารถเล่นเวทเทรนนิ่งจนสามารถเบียดได้ถึงแม้ว่าจะตัวเล็กกว่า ก็น่าจะผ่านด่านนี้ไปได้ แต่ถ้าสู้แรงเบียดไม่ไหว ก็ยากที่จะได้ลงเล่น
แรงกดดันจากความคาดหวัง
สุดท้ายจากดีลนี้ แน่นอนว่ามันคือดีลแห่งความหวังของเด็กเตะบอลในเจเนอเรชั่นต่อไปเลย เพราะหากเจทำได้ดี เค้าจะกลายเป็นไอดอลอันยิ่งใหญ่ในยุคปัจจุบันเลย แต่หากไปแล้วสู้ไม่ไหวเค้าก็จะเจอแรงกดดันอย่างมหาศาล ยังไงก็ขอเอาใจช่วยเจ ด้วยนะ